เมนู

ในที่นี้ประสงค์เอาสาวกพุทธะ. บทว่า เต เว โลกสมึ พฺราหฺมณา ความว่า
พุทธะเหล่านั้นเกิดโดยอริยชาติในธรรมกล่าวคือพราหมณ์ เพราะอรรถว่า
เป็นผู้ประเสริฐ หรือเป็นบุตรคือโอรสของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็น
พราหมณ์ เพราะฉะนั้น เมื่อว่าโดยปรมัตถ์ ก็ชื่อว่าพราหมณ์ในสัตว์โลก
นี้. อธิบายว่า ไม่ใช่เป็นพราหมณ์โดยเหตุเพียงชาติและโคตร หรือไม่ใช่
เป็นพราหมณ์ด้วยเหตุเพียงทรงชฎาเป็นต้น . ในสูตรทั้งสองนี้ ธรรมอัน
ทำความเป็นพราหมณ์ พระองค์ตรัสให้ถึงพระอรหัต ด้วยประการฉะนี้
แต่พึงทราบความต่างกันแห่งเทศนา โดยการตรัสต่าง ๆ กัน ด้วยเทศนา-
วิลาส เพราะเหล่าสัตว์มีอัธยาศัยต่างกัน.
จบอรรถกถาเถรสูตรที่ 5

6. มหากัสสปสูตร



ว่าด้วยพระมหากัสสปะไม่รับบิณฑบาตเทวดารับของคนขัดสน



[43] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลัน-
ทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์ ก็สมัยนั้นแล ท่านพระมหากัสสปะอยู่
ที่ถ้ำปิปผลิคูหา อาพาธ ได้รับทุกข์ เป็นไข้หนัก สมัยต่อมา ท่านพระ-
มหากัสสปะหายจากอาพาธนั้นแล้วได้คิดว่า ไฉนเราพึงเข้าไปสู่พระนคร-
ราชคฤห์เพื่อบิณฑบาต ก็สมัยนั้น เทวดาประมาณ 500 ถึงความขวนขวาย
เพื่อจะให้ท่านพระมหากัสสปะได้บิณฑบาต ท่านพระมหากัสสปะห้าม
เทวดาประมาณ 500 เหล่านั้นแล้ว เวลาเช้า นุ่งแล้ว ถือเอาบาตรและ
จีวรเข้าไปสู่พระนครราชคฤห์เพื่อบิณฑบาตตามทางที่อยู่แห่งมนุษย์ขัดสน